ข้อ 7 อธิบายการทำงานของระบบ Client and Server และประโยชน์ที่ใช้ระบบนี้
คอมพิวเตอร์ที่นำมาเชื่อมต่อกันในเน็ตเวิร์ก จะประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อโปรแกรมควบคุมและสื่อนำข้อมูล ซึ่งคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในระบบจะมีหน้าที่ทำงานแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- ส่วนของผู้ใช้บริการ หรือที่เรียกว่า Client
- ส่วนของผู้ให้บริการ หรือที่เรียกว่า Server
Client ผู้ขอใช้บริการ คือ คอมพิวเตอร์อื่นๆ ในระบบเน็ตเวิร์กที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปใช้ทรัพยากรต่างๆ ของเครือข่ายติดต่อกับ Server เรียกว่า "Client" (Work Station) Client จะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการต่างๆ เช่น windows xx หรือแมคอินทอช เป็นต้น ซึ่งสามารถเข้าไปขอใช้บริการจาก Server ได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ สายสื่อสาร ไฟล์ฐานข้อมูล เรียกว่า Database client และเครื่องพิมพ์บน Server ได้ ราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของผู้ใช้เอง ก่อนที่จะเริ่มติดต่อกับ Server ต้องทำการโหลดโปรแกรมที่เรียกว่า "Network Shell" ก่อน ซึ่งต้องกำหนดประเภทของ คาร์ด หน่วยความจำ หมายเลขอินเทอร์รับปต์ และรายละเอียดต่างๆ ของ Network Shell ให้ตรงกับฮาร์ดแวร์และไดรเวอร์ที่ใช้ ต่อจากนั้นจึงจะเริ่มทำงานได้
Server ผู้ให้บริการ ในระบบ LAN จำเป็นต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ให้บริการทางด้านต่างๆ แก่คอมพิวเตอร์อื่นๆ ซึ่งเป็นลูกข่าย เรียกว่า "Server" โดยทั่วไปมีหน้าที่ ให้บริการ 3 ประการ คือ
1. บริการในการจัดเก็บข้อมูล เรียกว่า " File server"
2. ให้บริการด้านการพิมพ์เอกสารและควบคุมเครื่องพิมพ์ เรียกว่า "Printer server" และ
3. ให้บริการควบคุมด้านการสื่อสารที่จะต่อเชื่อมกับอุปกรณ์สื่อสารอื่น เรียกว่า "communication server"
แสดงการพิมพ์ระบบเน็ตเวิร์ก
โดยทั่วไป "Server" จะทำงานในงานเหมือนคอมพิวเตอร์ธรรมดาไม่ได้ ต้องเปิดเครื่องไว้เพื่อรอให้บริการแก่คอมพิวเตอร์อื่นๆ เรียกว่า "Dedicated File Server" แต่บางรุ่นสามารถทำหน้าที่เป็น Server พร้อมๆ กับทำงานเป็นคอมพิวเตอร์ธรรมดาได้พร้อมกัน เรียกว่า "Non-Dedicated File Server"
ประโยชน์ของระบบ Client - Server คือ
1. การใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น เครื่องพิมพ์ ฮาร์ดดิสก์ การเชื่อมโยงสื่อสารระหว่างกัน และแอพพลิเคชันต่างๆ ฯ
2. ช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลในการทำงานของระบบเครือข่าย เมนเฟรมและมินิคอมพิวเตอร์ที่ยุ่งยากและราคาแพง มาสู่ระบบเครือข่าย Client and Server ที่มีราคาถูกกว่า
3. การจัดเก็บข้อมูลง่าย สะดวกและ สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงแก้ไขฐานข้อมูลให้ถูกต้อง และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
4. ช่วยลดค่าใช้จ่ายของการบำรุงรักษา(maintenance costs) ของ Software และ Hardware แต่ละเครื่อง
5. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ workstation
จากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีราคาถูกมาเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายและให้ทำงานเหมือนเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ อีกทั้งทำงานได้ดีกว่าและมากกว่าเพราะให้ซีพียูหลายตัวช่วยกันทำงาน ระบบ Client-server จึงเป็นที่ยอมรับในขณะนี้
วารสาร DataNews ฉบับที่ 15 กรกฎาคม-กันยายน 2537 โดย : รศ.ยืน ภู่วรวรรณ
คอมพิวเตอร์รีวิว ฉบับที่ 110 : ประจำเดือนตุลาคม 2536
คู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ รอบรู้เรื่องแลน (เน็ตแวร์) โดย ชาญยศ ปลื้มปิติวิริยะเวช เอกสิทธิ์ เทียมแก้ว และคณะ