ข้อ 3 ก) ข้อดี ข้อด้อย ของเส้นนำสัญญาณ (Media) สายทองแดง และสายไฟเบอร์ออฟติก
เส้นนำ
สัญญาณ |
สายทองแดง - สายคู่บิดเกลียว (Twisted pair Cable) เป็นสายส่งสัญญาณที่ประกอบไปด้วยสายทองแดง 2 เส้นขึ้นไปบิดกันเป็นเกลียว (Twist) และหุ้มด้วยฉนวน แต่ละคู่สายทองแดงจะถูกพันกันตามมาตรฐานเพื่อลดการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จากคู่สายข้างเคียงภายในเคเบิลเดียวกันหรือจากภายนอก เนื่องจากสายบิดเกลียวนี้ยอมให้สัญญาณไฟฟ้าความถี่สูงผ่านได้ถึง 10 Hz เช่น สายคู่บิดเกลียว 1 คู่ จะสามารถส่งสัญญาณเสียงได้ถึง 12 ช่องทางสำหรับอัตราการส่งข้อมูลผ่านสายคู่บิดเกลียวจะขึ้นอยู่กับความหนาของสายด้วย กล่าวคือ สายทองแดงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างจะสามารถส่งสัญญาณไฟฟ้ากำลังแรงได้ ทำให้สามารถส่งข้อมูลด้วยอัตราส่วนสูง ตัวอย่างเช่น สายโทรศัพท์ สายแบบนี้มี 2 ชนิด คือ 1.
สายคู่บิดเกลียวชนิดหุ้มฉนวน
2. สายคู่บิดเกลียวชนิดไม่หุ้มฉนวน Unshielded Twisted Pair : UTP เป็นสายคู่บิดเกลียวที่หุ้มด้วยฉนวนชั้นนอกที่บางอีกชั้น ทำให้สะดวกในการโค้งงอ แต่สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้น้อยกว่าชนิดแรก นอกจากนี้สาย Twisted Pair ยังถูกจัดแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ 5 ระดับ ตามคุณภาพคือ Type 1, 2, 3, 4 และ 5 Level 1 สำหรับการสื่อสารแบบเสียง (Voice) Level 2 ใช้ได้ทั้งการสื่อสารแบบเสียงและข้อมูล ชนิดนี้ไม่นำมาใช้ใน Network Level 3 ใช้ได้เช่นเดียวกับ Level 2 ความเร็ว 16 MHz. อัตราการส่งข้อมูลคือ 10 เมกะบิต/วินาที มักใช้กับระบบ 10 BASET Level 4 สำหรับระบบ 4 Mbps Toden Ring และ 10 BASE-T ขนาดใหญ่ความเร็ว 20MHz. อัตราส่งข้อมูลคือ 16 เมกะบิต/วินาที Level 5 ใช้สำหรับ Network ที่ต้องการความเร็วสูง ซึ่งความเร็วที่วัดได้มีค่าสูงถึง 100MHz. อัตราการส่งข้อมูลคือ 100 เมกะบิต/วินาที ปัจจุบัน จะใช้แบบ Level 5 เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากราคาถูก และสามารถใช้ได้ทั้งความเร็วแบบ 10 Mbps และ 100 Mbps
ข้อดี - ราคาถูก แต่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าแรงในการเดินสายมากกว่าค่าวัสดุ - ใช้งานง่าย - ติดตั้งง่ายและมีน้ำหนักเบา - สามารถทำงานที่ความเร็วสูงถึง 100 MBITS ต่อวินาที ข้อเสีย - มีอัตราการส่งข้อมูลต่ำ มีความกว้างแถบสัญญาณ (bandwidth) แคบ ทำให้ไม่เหมาะที่จะส่งข้อมูลโดยใช้เทคนิคการส่งข้อมูล ( transmission techniques) แบบแอนะล็อก เรียกว่า บรอดแบนด์ - มีระยะทางการส่งข้อมูลสั้นกว่าสายไฟเบอร์ออฟติก - ปัญหาที่สำคัญของสายสัญญาณแบบสายทองแดงคือ การเหนี่ยวนำโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับการรบกวนระหว่างตัวนำ ทำให้คลื่นสะท้อนกลับเกิดการรบกวนจาก ปัจจัยภายนอกเรียกว่า EMI ทำให้ผู้ใช้ต้องหมั่นดูแล
|
สายไฟเบอร์ออฟติก Fiber Optic Cable หรือ Cable ใยแก้วนำแสง |
ประกอบด้วยท่อใยแก้วที่มีขนาดเล็กและบางมากเรียกว่า "CORE" ล้อมรอบด้วยชั้นของใยแก้วที่เรียกว่า "CLADDING" อัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูงถึง 565 เมกะบิตต่อวินาที หรือมากกว่า ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดีมาก ขนาดของสายเล็กมากและเบามาก สายส่งข้อมูลแบบนี้จะมีความเร็วในการส่งถึง 1 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) หรือมากกว่า สายส่งข้อมูลแบบนี้ประกอบด้วย เส้นใย (fiber) ที่ทำมาจากใยแก้ว 2 ชนิด ชนิดหนึ่งอยู่ที่แกนกลาง ส่วนอีกชนิดหนึ่งอยู่ด้านนอก ซึ่งใยแก้วทั้งสองนี้จะมีดัชนีการสะท้อนแสงต่างกัน ทำให้แสงซึ่งถูกส่งออกมาจากปลายด้านหนึ่งสามารถส่งผ่านไปยังอีกด้านหนึ่งโดยที่ไม่ผ่านออกไปยังพื้นผิวด้านนอกของเส้นใยได้ เส้นใยนี้จะมีตัวป้องกันด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันการเสียหายภายใน ข้อมูลที่ส่งผ่านเป็นสัญญาณแสง แหล่งกำเนิดแสงที่ใช้เป็นได้ทั้งแบบไดโอดปล่อยแสง light emited diodes : LEDs หรือแบบไดโอดเลเซอร์ laser diodes : LDs ข้อมูลที่ส่งจะถูกเข้ารหัส (modulate) เป็นสัญญาณแสงโดยใช้วิธีการเข้ารหัสแบบความถี่ ซึ่งแสงที่ส่งออกไปจะมีทรานซิสเตอร์ชนิดที่เรียกว่า pin field eddect transistor (pin FET) รับช่วงต่อและจะถูกถอดรหัส (demodulate) ให้กลับมาเป็นข้อมูลเพื่อใช้งานต่อช่วงสัญญาณของสื่อจะสูงได้ถึง 5 กิกะเฮิรตช์ (GHz) แต่เทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสามารถใช้ช่วงสัญญาณในช่วง 100 ถึง 400 เมกะเฮิรตช์ (MHz) ซึ่งจำกัดด้วยอัตราการเข้ารหัสสูงสุดของแสงต้นทาง การเข้ารหัสของ LEDs จะอยู่ระหว่าง 20 ถึง 150 เมกะบิตต่อวินาที ถ้าใช้ LDs จะได้อัตราการเข้ารหัสที่สูงกว่านี้
ใน |
คุณสมบัติ
ซิงเกิลโหมด มัลติ
|
ข้อดี -
ความ -
กำลัง -
คลื่น มีภูมิคุ้มกันต่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อม เช่น โรงพยาบาล โรงงานผลิต สถานีโทรทัศน์ ซึ่งสายส่งข้อมูลแบบทองแดงจะถูกรบกวนด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสูง มีการสูญเสียสัญญาณต่ำ ทำให้ส่งข้อมูลได้ระยะไกลกว่าสายคู่บิดเกลียวและสายแบบโคแอกเชียลโดยไม่ต้องมีตัวขยายสัญญาณ -
น้ำ -
ขนาด -
มี -
มี -
มีความแข็งแรงและทนทานสูง
เส้น - ไม่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้า เพราะใช้แสงในการส่งข้อมูล ทำให้สายส่งข้อมูลแบบนี้อาจนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมที่ใช้สายแบบอื่นไม่ได้ เช่น โรงกลั่นน้ำมันที่ไม่สามารถใช้สายส่งข้อมูลแบบทองแดงได้ - ไม่สามารถดักสัญญาณได้ การจับสัญญาณจะต้องตัดสายออกและต่อเข้ากับตัวรับสัญญาณเท่านั้น ซึ่งจะมีประโยชน์สูงในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ข้อเสีย - ราคาอุปกรณ์และค่าติดตั้งสูงกว่าเส้นนำสัญญาณสายทองแดง - การ - มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงกว่าเส้นนำสัญญาณแบบอื่นๆ - สามารถส่งข้อมูลได้ทางเดียว ทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันต้องใช้เส้นนำสัญญาณส่งข้อมูล 2 เส้น -
เส้น |
ข)
การสื่อสารแบบมัลติมีเดีย
(Multimedia)
ควรจะใช้สายนำสัญญาณแบบสายไฟเบอร์ออฟติก
เนื่องจากเป็นการส่งข้อมูลด้วยแสง
จึงมีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงกว่าเส้นนำสัญญาณแบบทองแดง
10 ถึง 100 เท่า ถึง
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ LAN และการใช้งาน Novell Net Ware อัครเสน สมุทรผ่อง และจักร พิชัยศรทัต
สร้างและพัฒนาระบบ LAN โดย : กิตติ ภักดีวัฒนะกุล
นิตยสาร เทคโนโลยีสื่อสาร ปีที่ 2 ฉบับที่ 13 ปี 2540 ดร.รัชภาคย์ จิตต์อารี และ ผศ.ดร.ปรีชา ยุพาพิน